บ่อน้ำร้อนน้ำเค็ม อำเภอ ท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี สปาโคลน
บ่อน้ำร้อนน้ำเค็มสุราษฎร์ธานี: จากบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติสู่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธี
จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีแหล่งน้ำที่มีความเค็มและมีความสำคัญในสองลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ได้แก่ บ่อน้ำพุร้อนเค็ม ที่อำเภอท่าฉาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อำเภอไชยา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำโบราณที่ใช้ในพระราชพิธีสำคัญของประเทศ
บ่อน้ำพุร้อนเค็ม อำเภอท่าฉาง: อัศจรรย์ธรรมชาติเพื่อการบำบัด
บ่อน้ำพุร้อนเค็มแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านธารน้ำร้อน ตำบลเขาถ่าน อำเภอท่าฉาง เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีน (Unseen) ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวสายสุขภาพ
ลักษณะเด่น:
น้ำพุร้อนที่มีรสเค็ม: เป็นลักษณะพิเศษที่หาได้ยาก โดยน้ำในบ่อมีอุณหภูมิประมาณ 35-60 องศาเซลเซียส มีรสเค็มเล็กน้อย แต่ไม่มีกลิ่นของกำมะถันรบกวน
สปาโคลนธรรมชาติ: นอกจากบ่อน้ำร้อนแล้ว ที่นี่ยังมีโคลนสีดำเนื้อละเอียดให้นักท่องเที่ยวได้พอกตัวเพื่อบำรุงผิวพรรณ ซึ่งเชื่อกันว่าอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ
เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ: บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เป็นป่าชายเลนเดิม สันนิษฐานว่าความร้อนใต้พิภพทำให้น้ำในบริเวณนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น และการที่เคยเป็นพื้นที่ป่าชายเลนมาก่อน ทำให้น้ำมีแร่ธาตุและความเค็มผสมอยู่
ประวัติและตำนาน:
ในอดีต ชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่าบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เรียกว่า "โต๊ะน้ำพุร้อนเค็ม" (โต๊ะ เป็นคำที่ชาวมุสลิมใช้เรียกผู้ที่เคารพนับถือ) และเชื่อว่าน้ำในบ่อมีสรรพคุณในการรักษาโรค โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและโรคผิวหนังต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าในอดีตว่าบริเวณนี้เคยเป็นที่วางไข่ของจระเข้มาก่อน
ปัจจุบัน บ่อน้ำพุร้อนเค็มได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการสร้างบ่อสำหรับแช่เท้าและแช่ตัวอย่างเป็นสัดส่วน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนและบำบัดสุขภาพ
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร: สายน้ำแห่งความศักดิ์สิทธิ์คู่แผ่นดิน
ภายในวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอกและปูชนียสถานสำคัญของภาคใต้ มีบ่อน้ำโบราณที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ลักษณะและความสำคัญ:
บ่อน้ำโบราณอายุกว่า 1,200 ปี: สันนิษฐานว่าบ่อน้ำแห่งนี้สร้างขึ้นมาพร้อมกับองค์พระบรมธาตุไชยาในสมัยศรีวิชัย (ประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14) เพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา
น้ำในพระราชพิธีสำคัญ: น้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้ถูกนำไปใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีมาแล้วหลายรัชกาล รวมถึงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เมื่อปี พ.ศ. 2493 และล่าสุดได้มีการพลีกรรมตักน้ำจากบ่อแห่งนี้เพื่อใช้ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ระวัติและตำนาน:
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่บริเวณพุทธาวาส ข้างพระวิหารเก่าที่สร้างคู่มากับองค์พระบรมธาตุ ในอดีตชาวบ้านเชื่อว่าน้ำในบ่อแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ความสำคัญของบ่อน้ำแห่งนี้หยั่งรากลึกในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของท้องถิ่นและระดับชาติ การที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระราชพิธี สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์และความเชื่อที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
โดยสรุปแล้ว "บ่อน้ำเค็ม" ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นมีความหมายและบทบาทที่แตกต่างกันไป บ่อน้ำพุร้อนเค็มที่ท่าฉางเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีคุณค่าในด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในขณะที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระบรมธาตุไชยาเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่เชื่อมโยงกับสถาบันพระมหากษัตริย์และประวัติศาสตร์ของชาติไทย